General knowledge

กฎหมายและมาตรฐานคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยที่ผู้ประกอบการต้องรู้

กฎหมายและมาตรฐานคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยที่ผู้ประกอบการต้องรู้

ทำความเข้าใจกรอบกฎหมายและมาตรฐานคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย

การทำความเข้าใจกกรอบกฎหมายและมาตรฐานคาร์บอนเครดิตเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาด ไม่ว่าจะต้องการลดต้นทุนพลังงาน การขายเครดิตที่สร้างได้หรือต้องเตรียมรับมือกฎระเบียบภาคบังคับ (เช่น ETS หรือ carbon tax) ที่กำลังถูกพิจารณาในระดับชาติ บทความนี้จึงขอสรุปภาพรวมเชิงกฎหมาย มาตรฐานการตรวจวัด (MRV) การออกเครดิตและข้อปฏิบัติสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยควรรู้

โดยหน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องคาร์บอนในไทยคือ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่พัฒนาเครื่องมือด้านการลดก๊าซเรือนกระจก รวมถึงโปรแกรม T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) สำหรับการออกคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจภายในประเทศ และในระดับยุทธศาสตร์ ประเทศไทยมีเอกสารแผนระยะยาวและเป้าหมาย (LT-LEDS / NDC) ที่กำหนดทิศทางการลดการปล่อยก๊าซ ซึ่งเป็นพื้นฐานให้เกิดนโยบายเช่นตลาดคาร์บอนและมาตรการอื่นๆ อีกด้วย

มาตรฐานสำคัญที่ใช้ในการออกและตรวจสอบคาร์บอนเครดิต

T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction) คือมาตรฐานการออกเครดิตระดับชาติที่ออกโดย TGO ซึ่งออกเครดิตสำหรับโครงการที่ลดการปล่อยหรือดูดซับคาร์บอน ละเครดิตที่ออกภายใต้ T-VER สามารถซื้อขายในตลาดภายในประเทศได้ T-VER มีชุดข้อกำหนดและคู่มือต่างๆ สำหรับการออกแบบโครงการ การคำนวณ baseline และการคำนวณหน่วยลด (reduction units)

หลักสากลที่อ้างอิง ISO 14064 (และ ISO ที่เกี่ยวข้อง) ในเชิงเทคนิค T-VER อ้างอิงแนวทางการวัด รายงานและการตรวจสอบคาร์บอนเครดิตตาม ISO 14064 (Part 1/2/3) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับการจัดทำ inventory ระดับองค์กร การยึดมาตรฐาน ISO ช่วยให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือและสามารถเปรียบเทียบกับมาตรฐานอื่น ๆ ได้

Premium T-VER & การเชื่อมโยงกับมาตรฐานสากล เพื่อลดช่องว่างด้านคุณภาพ TGO พัฒนากลไกเช่น Premium T-VER และยังมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานมาตรฐานสากล (เช่น Verra) เพื่อให้มาตรฐานของไทยสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากลและเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ

กระบวนการออกคาร์บอนเครดิต (ภาพรวมขั้นตอนที่ผู้ประกอบการต้องรู้)

ออกแบบโครงการ (Project design) :

ระบุประเภทโครงการ (พลังงานหมุนเวียน การจัดการขยะ การปลูกป่า ฯลฯ) กำหนดขอบเขตและหน่วยงานรับผิดชอบ (project proponent)

คำนวณ baseline และคาดการณ์การลด (Baseline & additionality) :

ต้องพิสูจน์ว่าโครงการทำให้เกิดการลดที่ “เพิ่มเติม” กว่ากรณีฐาน (BAU) ไม่ใช่การลดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดยปกติ

การรายงานและ MRV (Monitoring, Reporting, Verification) :

ต้องวางระบบติดตามข้อมูลการปล่อย/การลดและรายงานตามรูปแบบที่ T-VER/ISO กำหนด โดยการตรวจสอบ (verification) ต้องทำโดยหน่วยงานตรวจสอบที่ขึ้นทะเบียน (VVB — Validation & Verification Body)

การออกหน่วยลด/เครดิต (Issuance & Registry) :

เมื่อผ่านการตรวจสอบ TGO จะออกหน่วยลด (TVER units) และบันทึกในทะเบียน (registry) เพื่อเตรียมซื้อขายหรือโอนไปยังผู้ถือสิทธิ์

เงื่อนไขคุณภาพคาร์บอนเครดิตที่ต้องระวัง (ผู้ซื้อและผู้ขายควรรู้)

  • Additionality : เครดิตต้องมาจากการลดที่พิสูจน์ได้ว่าเกิดขึ้นนอกเหนือจากกรณีฐาน
  • Permanence (กรณีการดูดซับ เช่น ป่า) : ต้องมีมาตรการจัดการความเสี่ยงการกลับคืนของคาร์บอน (reversal) เช่น การประกัน/กองทุน ฯลฯ
  • Leakage : ลดการรั่วไหลของการปล่อยจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง (เช่น ห้ามย้ายกิจกรรมปล่อยไปยังที่อื่นแล้วอ้างว่าลด)
  • Co-benefits & Social safeguards : โครงการที่มีประโยชน์ร่วม (งานชุมชน สุขภาพ สิ่งแวดล้อม) มักได้รับความสนใจจากผู้ซื้อมากขึ้น และ TGO มีแนวทางให้พิจารณา co-benefit ในการออกคาร์บอนเครดิต (โดยเฉพาะกลุ่ม Premium T-VER)

ประเด็นภาษี การบัญชีและสินทรัพย์

การตีความคาร์บอนเครดิตในทางภาษี/บัญชียังเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาเป็นเคสๆ โดยกรมสรรพากรมีคำถาม/คำตอบในประเด็น VAT และการจัดประเภทสินค้าของการขายเครดิต ซึ่งผู้ขายควรตรวจสอบแนวปฏิบัติที่กรมสรรพากรกำหนดก่อนดำเนินการ นอกจากนี้การบัญชีตามมาตรฐานสากล (เช่น IFRS) สำหรับคาร์บอนเครดิตและ offset มีแนวทางทั่วไปแต่ต้องพิจารณาตามกรณีของแต่ละกิจการ (ที่มา : https://www.rd.go.th/26816.html)

ความเสี่ยงเชิงกฎหมายและเชิงธุรกิจที่ต้องเตรียมตัว

  • ความไม่แน่นอนเชิงกฎระเบียบมาตรการใหม่ : เช่น(ETS, carbon tax, ข้อจำกัดโอนเครดิตต่างประเทศ) ที่อาจออกมาต่อเนื่อง จึงต้องติดตามและเตรียมปรับกลยุทธ์อยู่ตลอดเวลา
  • ความเสี่ยงด้านคุณภาพของเครดิต : คาร์บอนเครดิตที่ตรวจสอบไม่ดี/ไม่มี additionality อาจถูกเพิกถอนหรือไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ซื้อสากล จึงควรเลือกมาตรฐานและ VVB ที่น่าเชื่อถือ (เช่น การอ้างอิง ISO / การเทียบเคียงกับ Verra/Gold Standard)
  • ความเสี่ยงทางภาษี/บัญชี — ต้องวางระบบบัญชีและตรวจสอบผลกระทบทางภาษีก่อนขาย/ซื้อเครดิต

คำแนะนำเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตสำหรับผู้ประกอบการ (Step-by-step)

สำรวจ (GHG screening) :

รวบรวมข้อมูลการปล่อยปกติ ทำ inventory ตาม ISO 14064-1 เป็นจุดเริ่มต้น

ประเมินโอกาสด้านเครดิต :

วิเคราะห์ว่าองค์กรมีโครงการใดที่ผ่านเกณฑ์ additionality และให้ co-benefits (พลังงานหมุนเวียน, การจัดการขยะ, ปลูกป่า ฯลฯ)

เลือกระบบ/มาตรฐาน :

ตัดสินใจใช้ T-VER (สำหรับตลาดในประเทศ) หรือมาตรฐานสากล (เช่น Verra/Gold Standard) หากมุ่งขายต่างประเทศ ที่สำคัญคือเลือกมาตรฐานที่เหมาะกับเป้าหมายเชิงการตลาดและความต้องการผู้ซื้อ

ตั้งระบบ MRV & เลือก VVB :

วางระบบติดตามข้อมูลและเตรียมให้เอกสารพร้อมสำหรับการตรวจสอบโดย VVB ที่ขึ้นทะเบียน

ตรวจสอบประเด็นภาษีและสัญญา :

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีและกฎหมายก่อนจัดการขาย/โอนคาร์บอนเครดิต เพื่อระบุภาระ VAT, การรับรู้ทางบัญชี และเงื่อนไขสัญญา

ติดตามนโยบาย :

สมัครรับข่าวสารจาก TGO และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เพราะกรอบกฎระเบียบมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (ETS, carbon tax, การโอนเครดิตระหว่างประเทศ)

กฎหมายและมาตรฐานคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย เช่น T-VER และ ISO 14064 กำลังมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ ผู้ประกอบการที่เข้าใจและปฏิบัติตามจะสามารถลดความเสี่ยงจากมาตรการภาคบังคับ เช่น ETS หรือภาษีคาร์บอน และยังเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดโลกซึ่งเริ่มให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำ นอกจากนี้ การมีระบบวัด รายงานและตรวจสอบ (MRV) ที่โปร่งใส ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์องค์กรด้านความยั่งยืนและสร้างความน่าเชื่อถือกับคู่ค้า นักลงทุนและผู้บริโภค

ในขณะเดียวกัน คาร์บอนเครดิตยังเป็นกลไกที่ผู้ประกอบการสามารถใช้สร้างรายได้เสริมจากการขายในตลาดคาร์บอน หรือใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซเพื่อตอบสนองเป้าหมาย Carbon Neutral และ Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น การทำความเข้าใจกฎหมายและมาตรฐานเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องการปฏิบัติตามข้อบังคับ แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

โดย CarbonWatch ให้บริการครบวงจรด้านคาร์บอนเครดิต ตั้งแต่การจัดทำรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG inventory), การออกแบบและพัฒนาโครงการลดการปล่อยที่สอดคล้องกับมาตรฐาน T-VER และสากล, การตรวจสอบเครดิต, จนถึงการซื้อขายในตลาดคาร์บอน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อช่วยให้องค์กรของคุณเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดโลก

ติดต่อ THAICOM PUBLIC COMPANY LIMITED พร้อมให้คำปรึกษา

Related technology

คำถามที่พบบ่อย

No items found.

Get started with CarbonWatch

"Register and easily start your project. Experience a comprehensive carbon management service designed to make your management simple and seamless."

Get Started