ทำไม? คนในชุมชนจึงควรรู้เรื่องกฎหมายและสิทธิการจัดการป่าชุมชน
การรู้กฎหมายป่าชุมชนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชุมชนที่อยากอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน เพราะกฎหมายจะกำหนดว่า “อะไรทำได้/ไม่ได้”, ขั้นตอนการจัดตั้ง, สิทธิของสมาชิก, หน้าที่ของคณะกรรมการ และข้อจำกัดเมื่อพื้นที่ชนชั้นต่างๆ ทับซ้อนกัน บทความนี้สรุปสาระสำคัญของภาพรวมกฎหมายและเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการป่าของชุมชนที่คนในพื้นที่ควรรู้
ป่าชุมชนคืออะไร เงื่อนไขสำคัญที่คุณต้องรู้!
ตาม พ.ร.บ. ป่าชุมชน หมายถึง ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์ หรือพื้นที่อื่นของรัฐนอกเขตป่าอนุรักษ์ ที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งเป็นป่าของชุมชน โดยชุมชนร่วมกับรัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู จัดการและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน (ตามนิยามกฎหมาย) หมายความว่าจะจัดตั้งป่าของชุมชนไม่ได้ในพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ (เช่น อุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ฯลฯ) เว้นแต่จะมีกฎหมาย/ข้อยกเว้นอื่นชัดเจน
หน้าที่และข้อจำกัดของป่าชุมชน
สมาชิกและคณะกรรมการจัดการมีหน้าที่ดูแล ปกป้อง ฟื้นฟูและปฏิบัติตามข้อบังคับ/แผน :
เช่น ป้องกันการตัดไม้ผิดกฎหมาย การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ) หากฝ่าฝืนคณะกรรมการสามารถสั่งลงโทษภายในตามข้อบังคับได้ (เช่น เพิกถอนการเป็นสมาชิก) และมีกฎหมายกำกับบทลงโทษสำหรับการกระทำผิดตามกฎหมายป่าไม้/ป่าชุมชน
การจัดตั้งป่าของชุมชนไม่ส่งผลให้เปลี่ยนสถานะที่ดินหรือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ :
กฎหมายระบุชัดว่าการจัดตั้งมิได้เป็นการเปลี่ยนเขตหรือเพิกถอนสถานะของที่ดิน (ผู้ขอไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินอัตโนมัติ) หากชุมชนต้องการสิทธิครอบครอง/ใช้ประโยชน์ในเชิงกรรมสิทธิ์จะมีกระบวนการแยกต่างหากและมักซับซ้อน
ภาพรวมของกฎหมายป่าชุมชน มีอะไรบ้าง?
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 (และที่แก้ไข) :
กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองไม้/การควบคุมการทำไม้/การเก็บหาของป่า ซึ่งยังส่งผลต่อการใช้ประโยชน์และไม้หวงห้ามในพื้นที่ต่างๆ
พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 :
กฎหมายหลักที่ให้คำนิยาม ระบุวัตถุประสงค์ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก คณะกรรมการจัดการและหลักเกณฑ์การจัดตั้ง/ยกเลิกป่าชุมชน (คำจำกัดความ/ขอบเขต/หน้าที่/บทลงโทษ)
ระเบียบ/ประกาศ/พระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้อง :
เช่น ระเบียบคณะกรรมการนโยบายและพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดตั้งป่าชุมชนในพื้นที่อื่นของรัฐ ซึ่งระบุรายละเอียดวิธีปฏิบัติและเงื่อนไขบางประการ (เช่น การนำพื้นที่ของรัฐมาจัดตั้งเป็นป่าชุมชน)
เอกสาร/คู่มือเชิงทางการ (กรมป่าไม้ / ราชกิจจานุเบกษา) เป็นแหล่งอ้างอิงสำคัญ :
อ่านกฎหมายฉบับเต็มและคู่มือประชาชนเพื่อรายละเอียดเชิงเทคนิค
กรณีพื้นที่ของรัฐ / เขตทับซ้อน / ข้อพิพาท :
หากพื้นที่เป็นพื้นที่อื่นของรัฐ (เช่น ที่ราชพัสดุ เขตปฏิรูปที่ดิน ฯลฯ) ต้องปฏิบัติตามมาตรการ/เงื่อนไขเพิ่มเติม โดยมักต้องขอความยินยอมจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ก่อนตามพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้อง หรือหากมีข้อขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์หรือพื้นที่ทับซ้อนกับหน่วยงานอื่น ให้ใช้ช่องทางพิจารณา/ไกล่เกลี่ยผ่านคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัด และเก็บสำเนาเอกสารหลักฐานแผนที่พิกัด GPS/พยานชุมชนเพื่อลดความเสี่ยง RECOFTC และองค์กรภาคประชาสังคมมักให้ความช่วยเหลือด้านการจัดทำเอกสารและการสร้างพยานหลักฐาน
ข้อแนะนำเชิงปฏิบัติของป่าชุมชนสำหรับชุมชน
- จัดตั้งประชาคมที่ชัดเจน : บันทึกการประชุม/ลายเซ็นผู้สนับสนุน/บันทึกตัวแทน
- ทำแผนจัดการป่าของชุมชนให้ละเอียด : กำหนดโซนชัด (พื้นที่อนุรักษ์/พื้นที่ใช้ประโยชน์) พร้อมแผนที่ตามมาตรฐาน
- รวบรวมหลักฐานสิทธิชุมชน เช่น เอกสารการอยู่อาศัย ใช้ประโยชน์ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ภาพถ่าย พิกัด GPS
- เตรียมระบบการบริหารภายใน : ข้อบังคับคณะกรรมการ บัญชีทรัพย์สินส่วนกลาง แผนการเฝ้าระวัง/ป้องกันไฟ/ไม้หวงห้าม
- ติดต่อขอคำปรึกษาจากหน่วยงานท้องถิ่น/กรมป่าไม้/องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีประสบการณ์ (เช่น RECOFTC, Thai CF Net)
คำเตือนและข้อควรระวังเกี่ยวกับป่าชุมชน
- การจัดตั้งป่าของชุมชนไม่เท่ากับการได้กรรมสิทธิ์ที่ดิน หากจำเป็นต้องขอสิทธิใช้ที่ดินในระยะยาว ให้พิจารณาขั้นตอนกฎหมายแยกต่างหากและขอคำปรึกษาทางกฎหมาย
- อย่าเริ่มใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์หรือตัดไม้เชิงพาณิชย์ก่อนมีการอนุมัติ เพราะอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายป่าไม้และกฎหมายป่าชุมชน
กฎหมายและสิทธิในการจัดการป่าของชุมชน เป็นหัวใจสำคัญที่ชุมชนควรทำความเข้าใจอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ที่กำหนดสิทธิ หน้าที่และขั้นตอนการจัดตั้งป่าชุมชน ไปจนถึงข้อจำกัดที่ห้ามกระทำ เช่น การจัดตั้งในเขตป่าอนุรักษ์หรือการตัดไม้เชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาต การตระหนักถึงสิทธิเหล่านี้ทำให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและป้องกันปัญหาข้อพิพาทด้านที่ดินและทรัพยากรในอนาคตด้วย
สำหรับชุมชนหรือองค์กรที่ต้องการก้าวต่อไปในการจัดการป่าและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน CarbonWatch มีบริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ผลกระทบคาร์บอน รวมถึงการพัฒนากลไกเครดิตคาร์บอนและรายงานด้าน ESG ที่เชื่อมโยงกับการบริหารจัดการป่าชุมชนอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานสากล เพื่อให้ทั้งชุมชนและภาคธุรกิจสามารถสร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้อย่างแท้จริง
ติดต่อ THAICOM PUBLIC COMPANY LIMITED พร้อมให้คำปรึกษา

ที่มาของข้อมูล :
- https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/299/T_0010.PDF?utm_source=chatgpt.com
- https://www.forest.go.th/communityexpert/wp-content/uploads/sites/118/2023/02/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99-2562-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88-%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-2.pdf
- https://www.reic.or.th/Upload/5_63248_1733247294_64285.pdf
- ecoftc.org/sites/default/files/publications/resources/recoftc-0000342-0009-th.pdf
ที่มาของข้อมูล :
- https://www.recoftc.org/sites/default/files/publications/resources/recoftc-0000392-0001-en.pdf
- https://www.forest.go.th/community-extension/wp-content/uploads/sites/93/2019/01/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99.pdf
- https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/299/T_0010.PDF
- https://forestinfo.forest.go.th/Content/file/manualanddoc/04.pdf