General knowledge

10 พฤติกรรมง่ายๆ ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและการปล่อยคาร์บอนจากการใช้ชีวิตประจำวัน

10 พฤติกรรมง่ายๆ ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและการปล่อยคาร์บอนจากการใช้ชีวิตประจำวัน

เราสามารถปรับวิธีการใช้ชีวิตประจำวันให้สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้อย่างไร?

การลดก๊าซเรือนกระจกไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพียงอย่างเดียว แค่การปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ก็มีผลอย่างมีนัยสำคัญทั้งต่อปริมาณคาร์บอนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ นอกจากนั้น ยังมีประโยชน์ที่พ่วงมาด้วย เช่น ช่วยประหยัดเงินหรือมีสุขภาพที่ดีขึ้น ในบทความนี้เราจึงรวบรวม 10 พฤติกรรมง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที เพื่อช่วยโลกและสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

ความสำคัญของการลดก๊าซเรือนกระจกในวิถีชีวิตประจำวัน

  • ช่วยชะลอวิกฤตโลกร้อน : การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจำวันของเราเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ก๊าซเหล่านี้มาจากกิจกรรมที่เราทำเป็นประจำ เช่น การใช้ไฟฟ้า การเดินทาง การบริโภค และการจัดการขยะ การที่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เช่น การประหยัดไฟ การเลือกใช้ขนส่งสาธารณะหรือการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ จะช่วยลดปริมาณก๊าซที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้โดยตรง เมื่อทุกคนทำร่วมกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นและช่วยชะลออัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกได้

  • ปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ : การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดจากก๊าซเรือนกระจก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการละลายของธารน้ำแข็งที่คุกคามสัตว์ในแถบขั้วโลก ปะการังที่ฟอกขาวจากน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น หรือสภาพอากาศที่แปรปรวนจนส่งผลต่อการดำรงอยู่ของพืชและสัตว์นานาชนิด การลดก๊าซเรือนกระจกจะช่วยลดความรุนแรงของผลกระทบเหล่านี้ ช่วยให้สิ่งมีชีวิตต่างๆ สามารถปรับตัวและอยู่รอดได้

  • สร้างสุขภาพที่ดีขึ้น : เช่น การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาเดินหรือปั่นจักรยานมากขึ้นไม่ได้ช่วยแค่โลก แต่ยังดีต่อสุขภาพของเราเองด้วย นอกจากนี้ การลดการบริโภคเนื้อสัตว์แล้วหันมาเน้นพืชผักมากขึ้นก็ช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ นอกจากนี้ มลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลก็ลดลง ทำให้เราได้สูดอากาศที่สะอาดขึ้นอีกด้วย

  • ประหยัดค่าใช้จ่ายและสร้างความยั่งยืนทางการเงิน : พฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่ยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เช่น การประหยัดไฟฟ้าและน้ำในบ้าน การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและการลดปริมาณขยะ ซึ่งหมายถึงการซื้อของฟุ่มเฟือยน้อยลง การใช้จ่ายอย่างรอบคอบเช่นนี้ไม่เพียงแต่ดีต่อโลก แต่ยังช่วยให้คุณมีเงินเหลือเก็บมากขึ้นในระยะยาว

10 พฤติกรรมการลดก๊าซเรือนกระจกที่ทำได้จริง

  1. ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในบ้าน : เพราะไฟฟ้าส่วนใหญ่ในประเทศไทยยังคงมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คุณสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเหล่านี้ได้ด้วยการปิดไฟและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน รวมถึงการหันมาใช้หลอดไฟ LED ที่ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไส้แบบเดิม และพิจารณาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

  2. เดิน, ปั่นจักรยาน, หรือใช้รถสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนที่สำคัญ การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาใช้การเดินทางที่ยั่งยืนมากขึ้น เช่น การเดินหรือปั่นจักรยานในระยะทางใกล้ๆ นอกจากจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย หากจำเป็นต้องเดินทางไกล การใช้รถสาธารณะหรือการเดินทางแบบรวมกลุ่ม ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

  3. เลือกซื้อผลิตภัณฑ์รีไซเคิลและลดการใช้พลาสติก : ผลิตภัณฑ์พลาสติกส่วนใหญ่ผลิตจากน้ำมันดิบซึ่งต้องผ่านกระบวนการที่สิ้นเปลืองพลังงานและปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยชิ้นหรือไม่ใช้บรรจุภัณฑ์เลย หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น ขวดแก้ว ขวดพลาสติกหรือกระดาษ จะช่วยลดความต้องการในการผลิตใหม่ได้

  4. บริโภคอาหารที่มาจากท้องถิ่นและลดการกินเนื้อสัตว์ : การผลิตอาหารมีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการเลี้ยงปศุสัตว์ การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลงบ้างและหันมาบริโภคอาหารประเภทพืชผักมากขึ้น จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ นอกจากนี้ การเลือกซื้อผักผลไม้จากตลาดใกล้บ้านหรือผู้ผลิตในท้องถิ่นจะช่วยลดพลังงานที่ใช้ในการขนส่งอาหารจากที่ไกลๆ ได้อีกด้วย

  5. ลดปริมาณขยะและแยกขยะอย่างถูกต้อง : ขยะที่ถูกนำไปฝังกลบจะย่อยสลายและปล่อยก๊าซมีเทน (Methane) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่รุนแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์หลายเท่า การลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทาง เช่น การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก และการแยกขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ จะช่วยลดขยะที่ต้องนำไปฝังกลบได้มาก

  6. ซื้อเสื้อผ้าน้อยลงและเลือกเสื้อผ้าที่ทนทาน : อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างมลพิษและปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาล การเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าจาก Fast Fashion มาเป็น Sustainable Fashion ที่เน้นคุณภาพและความทนทานจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า และลดความต้องการในการผลิตใหม่ จึงช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้เป็นอย่างดี

  7. ปลูกต้นไม้หรือสร้างพื้นที่สีเขียว : ต้นไม้มีคุณสมบัติในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ การปลูกต้นไม้ในบ้าน สวนหรือแม้แต่บนระเบียงคอนโดมิเนียม ก็สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้

  8. ใช้พลังงานทดแทนในครัวเรือน : หากเป็นไปได้การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในบ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานฟอสซิลได้ในระยะยาว ถึงแม้จะต้องใช้เงินลงทุนในตอนแรก แต่ในระยะยาวแล้วถือว่าคุ้มค่าและดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก

  9. ลดการใช้น้ำร้อน : การผลิตน้ำร้อนในครัวเรือนต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นหรือการต้มน้ำ การลดเวลาในการอาบน้ำอุ่นหรือการซักผ้าด้วยน้ำเย็นแทน จะช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและลดก๊าซเรือนกระจกลงได้

  10. สนับสนุนองค์กรและธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม : การเลือกซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทหรือองค์กรที่มีนโยบายชัดเจนในการลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์ หรือสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการแสดงพลังของผู้บริโภคที่สามารถสร้างแรงผลักดันให้ธุรกิจอื่นๆ หันมาใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น

ตัวอย่างแผน 30 วัน ในการลดก๊าซเรือนกระจกสำหรับคนทำงานออฟฟิศ + ใช้รถยนต์

สัปดาห์ที่ 1: เริ่มจากเรื่องง่ายในบ้านและที่ทำงาน

  • วันที่ 1–3 : เปลี่ยนหลอดไฟที่ใช้บ่อยที่สุด (ห้องนั่งเล่น/ห้องทำงาน) เป็น LED
  • วันที่ 4–5 : จัดโต๊ะทำงานใหม่ ปิดคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อเลิกงาน (ไม่สแตนด์บาย)
  • วันที่ 6 : ตรวจลมยางรถยนต์ให้เหมาะสม → รถกินน้ำมันน้อยลง ปล่อย CO₂ ลดลง
  • วันที่ 7 : จัดมื้ออาหารกลางวันแบบไม่เนื้อแดง (เลือกไก่ ปลาหรือโปรตีนพืช)

สัปดาห์ที่ 2: เริ่มปรับพฤติกรรมการเดินทาง

  • วันที่ 8–9 : วางแผนรวมธุระให้ทำในทริปเดียว เพื่อลดจำนวนครั้งที่ต้องขับรถ
  • วันที่ 10–11 : ทดลอง Car Free Day อย่างน้อย 1 วัน ใช้ขนส่งสาธารณะ/ร่วมรถกับเพื่อน
  • วันที่ 12–13 : ตั้งใจใช้โหมดประหยัดน้ำมัน (eco mode) หรือขับด้วยความเร็วคงที่
  • วันที่ 14 : เลือกเมนู Plant-based ทั้งวัน ลองทำอาหารเองเพื่อฝึกปรับเมนู

สัปดาห์ที่ 3: โฟกัสที่อาหารและของใช้

  • วันที่ 15–16 : วางแผนซื้ออาหาร ตามฤดูกาล + ของท้องถิ่น
  • วันที่ 17 : แยกเศษอาหารออกจากขยะทั่วไป (เริ่มต้นด้วยถังเล็กในครัว)
  • วันที่ 18–19 : ซื้อของมือสองหรือซ่อมเสื้อผ้า/อุปกรณ์แทนการซื้อใหม่
  • วันที่ 20–21 : ลดอาหารเหลือทิ้ง → ทำเมนูจากของค้างตู้เย็น

สัปดาห์ที่ 4: ขยับไปสู่การเปลี่ยนแปลงระยะยาว

  • วันที่ 22–23 : ปรับแอร์ที่บ้าน/ที่ทำงานขึ้น 1°C แล้วใช้พัดลมเสริม
  • วันที่ 24–25 : ทดลองทำงานจากบ้าน 1 วัน (ถ้าองค์กรอนุญาต) → ลดการเดินทาง
  • วันที่ 26 : สมัครติดตามข่าว/โครงการไฟฟ้าสะอาดหรือโซลาร์รูฟท็อป
  • วันที่ 27–28 : แชร์ประสบการณ์การลดคาร์บอนและลดก๊าซเรือนกระจกกับเพื่อนร่วมงาน เช่น อาจชวนทำ Carpool ทางเดียวกันนั่งรถคันเดียวกัน
  • วันที่ 29 : บันทึกผลลัพธ์ เช่น ค่าน้ำมันลดกี่ลิตร บิลค่าไฟต่างจากเดิมไหม
  • วันที่ 30 : ประเมินผลและเลือก 3 พฤติกรรมที่ทำง่ายและจะทำต่อเนื่อง

การลดก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจำวันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม การเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้ตัวเราเองอีกด้วย

CarbonWatch เราผู้นำเทคโนโลยีอวกาศเพื่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนเครดิตรายแรกของไทย เราผสานนวัตกรรมของเทคโนโลยีดาวเทียมสำรวจโลกและ AI เพื่อประเมินการกักเก็บคาร์บอนในต้นไม้ เรามุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการสิ่งแวดล้อม และลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างเครดิตคาร์บอน เพื่อลดคาร์บอนและการลดก๊าซเรือนกระจก อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ติดต่อ THAICOM PUBLIC COMPANY LIMITED พร้อมให้คำปรึกษา

Related technology

คำถามที่พบบ่อย

No items found.

Get started with CarbonWatch

"Register and easily start your project. Experience a comprehensive carbon management service designed to make your management simple and seamless."

Get Started