General knowledge

ทำไม? forest classification คือกุญแจสำคัญสู่การประเมินคาร์บอนเครดิตอย่างแม่นยำ

ทำไม? forest classification คือกุญแจสำคัญสู่การประเมินคาร์บอนเครดิตอย่างแม่นยำ

ความสำคัญของการ forest classification ที่มีผลต่อการประเมินคาร์บอนเครดิต

ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คาร์บอนเครดิตจากภาคป่าไม้ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรให้การประเมิน Carbon Credit นั้น แม่นยำและน่าเชื่อถือ คำตอบของคำถามนี้อยู่ในกระบวนการที่เรียกว่า "forest classification" หรือการจำแนกประเภทของป่าไม้ ซึ่งเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ไขไปสู่การประเมินคาร์บอนที่แท้จริง

บทความนี้จะพาไปสำรวจและวิเคราะห์อย่างละเอียดว่า เหตุใดการจำแนกประเภทป่าไม้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการประเมินคาร์บอนเครดิต และส่งผลโดยตรงต่อความโปร่งใสและประสิทธิภาพของตลาดคาร์บอนในปัจจุบัน

ทำความรู้จักกับ forest classification

การจำแนกประเภทป่าไม้ คือกระบวนการจัดกลุ่มและแบ่งประเภทของพื้นที่ป่าไม้ โดยใช้เกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถเข้าใจลักษณะทางกายภาพ ทางชีวภาพ และหน้าที่ของป่าแต่ละแห่งได้อย่างเป็นระบบ โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมหรือข้อมูลทางภูมิศาสตร์เชิงลึกเพื่อระบุลักษณะต่างๆ ของป่า เช่น ชนิดของต้นไม้ โครงสร้างป่า และระดับความหนาแน่นของต้นไม้ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการประเมินคาร์บอนเครดิต และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ป่าแต่ละประเภท คือเครื่องจักรดูดซับคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกัน…

แนวคิดพื้นฐานที่สุดคือป่าไม้ไม่ใช่พื้นที่สีเขียวที่เหมือนกันทั้งหมด ป่าแต่ละประเภทมีลักษณะทางนิเวศวิทยา โครงสร้างและองค์ประกอบของพันธุ์ไม้ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอน ดังนี้

  • ป่าเขตร้อน (Tropical Forests) : เช่น ป่าดิบชื้นในแถบอเมซอนหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงและมีอัตราการสังเคราะห์แสงที่สูงตลอดทั้งปี ทำให้มีความสามารถในการดูดซับคาร์บอนได้ในปริมาณมหาศาลเมื่อเทียบกับป่าประเภทอื่น
  • ป่าเขตอบอุ่น (Temperate Forests) : ประกอบด้วยป่าผลัดใบและป่าสน มีอัตราการเติบโตและดูดซับคาร์บอนที่ช้ากว่าป่าเขตร้อน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่พืชส่วนใหญ่พักตัว
  • ป่าเขตหนาว (Boreal Forests) : พบได้ในเขตละติจูดสูง เช่น แคนาดาและรัสเซีย แม้จะมีอัตราการเติบโตของต้นไม้ที่ช้า แต่ป่าประเภทนี้กักเก็บคาร์บอนปริมาณมหาศาลไว้ในดินและชั้นดินเยือกแข็งคงตัว (Permafrost)

อายุของป่า (Forest Age) : ป่าปลูกหรือป่ารุ่นสองที่กำลังเติบโต (Young Forests) จะมีอัตราการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศในแต่ละปีสูงมาก ในขณะที่ป่าแก่ (Old-growth Forests) จะมีปริมาณคาร์บอนสะสมในมวลชีวภาพ (Biomass) โดยรวมสูงกว่า แต่มีอัตราการดูดซับคาร์บอนใหม่ในแต่ละปีลดลง

ความสำคัญของ forest classification

  • ด้านการบริหารจัดการทรัพยากร : ช่วยให้ทราบว่าป่าแต่ละแห่งควรจัดการอย่างไร เช่น ป่าต้นน้ำต้องเน้นการอนุรักษ์อย่างเข้มงวด ส่วนป่าเศรษฐกิจสามารถวางแผนการปลูกและตัดฟันได้อย่างเหมาะสม
  • ด้านการประเมินคาร์บอนเครดิต : ดังที่กล่าวไปข้างต้น ป่าแต่ละประเภทมีศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนแตกต่างกัน การจำแนกประเภทป่าจึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญอย่างยิ่งในการประเมินปริมาณคาร์บอนได้อย่างแม่นยำ
  • ด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ : ช่วยในการระบุพื้นที่ที่มีความสำคัญสูง มีชนิดพันธุ์หายากหรือใกล้สูญพันธุ์เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองที่จำเพาะเจาะจง
  • ด้านการป้องกันภัยพิบัติ : การจำแนกป่าช่วยให้ประเมินความเสี่ยงจากไฟป่า (ป่าเต็งรังมีความเสี่ยงสูง) หรือดินถล่ม (ป่าดิบเขาที่สมบูรณ์ช่วยยึดหน้าดินได้ดี)

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ forest classification คือรากฐานของการคำนวณคาร์บอนเครดิตที่แม่นยำ

  1. การกำหนดกรณีฐาน (Baseline) ที่ถูกต้อง : การคำนวณ Carbon Credit จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ โครงการสามารถแสดงให้เห็นถึงการกักเก็บคาร์บอนที่เพิ่มเติมจากสถานการณ์ปก ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหากไม่มีโครงการหรือที่เรียกว่า "กรณีฐาน" การจำแนกประเภทป่าหรือ forest classification จะช่วยให้สามารถกำหนดกรณีฐานได้อย่างแม่นยำ เช่น การประเมินอัตราการสูญเสียพื้นที่ป่าในอดีตของป่าประเภทนั้นๆ ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อนำมาคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

  2. การเลือกใช้สมการแอลโลเมตริก (Allometric Equations) ที่เหมาะสม : หัวใจของการประเมินปริมาณคาร์บอนในต้นไม้ คือการคำนวณมวลชีวภาพ ซึ่งทำได้โดยการวัดขนาดของต้นไม้ (เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางและความสูง) แล้วนำไปคำนวณผ่าน สมการแอลโลเมตริก ซึ่งเป็นสูตรทางคณิตศาสตร์ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างขนาดและมวลของต้นไม้

ประเด็นสำคัญคือ สมการแอลโลเมตริกมีความจำเพาะต่อชนิดพันธุ์ไม้และประเภทของป่า การใช้สมการที่พัฒนาขึ้นสำหรับป่าสนในเขตอบอุ่น มาคำนวณมวลชีวภาพของไม้ในป่าดิบชื้นของไทย ย่อมให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง การจำแนกประเภทป่าหรือ forest classification จึงจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้นักพัฒนาโครงการสามารถเลือกใช้สมการที่จำเพาะเจาะจงกับชนิดพันธุ์และระบบนิเวศของพื้นที่โครงการได้ ซึ่งจะนำไปสู่การประเมินมวลชีวภาพและปริมาณคาร์บอนที่กักเก็บไว้ได้แม่นยำที่สุด

  1. การประเมินคาร์บอนในดินและเศษซาก : การกักเก็บคาร์บอนไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในส่วนของต้นไม้ที่มีชีวิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรากมวลชีวภาพที่ตายแล้ว และที่สำคัญคือ คาร์บอนอินทรีย์ในดิน ซึ่งป่าแต่ละประเภทมีศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนในแหล่งต่างๆ เหล่านี้ไม่เท่ากัน เช่น ป่าเขตหนาว (Boreal Forest) ที่กักเก็บคาร์บอนในดินไว้มหาศาล การจำแนกประเภทป่าจึงช่วยให้สามารถประเมินแหล่งกักเก็บคาร์บอนทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำ

เทคโนโลยีสมัยใหม่ : เครื่องมือสำคัญในการ forest classification

ในอดีตการสำรวจและจำแนกป่าต้องอาศัยการลงพื้นที่ภาคสนามเป็นหลัก ซึ่งใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรสูง แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกลและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ได้แก่

  • ภาพถ่ายดาวเทียม : ดาวเทียมอย่าง Landsat หรือ Sentinel สามารถให้ข้อมูลภาพที่มีรายละเอียดสูง ทำให้สามารถจำแนกประเภทของป่า ปกคลุมเรือนยอดและติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่าได้อย่างต่อเนื่อง
  • เทคโนโลยี LiDAR (Light Detection and Ranging) : เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เลเซอร์ในการสแกนพื้นผิวโลก ทำให้สามารถวัดโครงสร้างของป่าในรูปแบบสามมิติได้อย่างแม่นยำ ทั้งความสูงของเรือนยอดและความหนาแน่นของมวลชีวภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินคาร์บอน

การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ร่วมกับการสำรวจภาคสนาม ทำให้การจำแนกประเภทป่าในปัจจุบันมีความรวดเร็ว ถูกต้องและครอบคลุมพื้นที่ในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาโครงการคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพ

กรณีศึกษาของการใช้ forest classification

  • โครงการใน Mozambique พบว่าการวัดชีวมวลจริงสูงกว่าปกติถึง 1.5–2.2 เท่า เมื่อเทียบกับค่า IPCC ที่อ้างอิงทั่วไป ซึ่งจะมีผลต่อมูลค่าของเครดิตอย่างมหาศาล sylvera.com
  • งานวิจัยของ Guardian ชี้ปัญหาการอ้าง baseline เกินจริงในโครงการหลายแห่ง หรือให้เครดิตแก่ป่าที่ไม่เสี่ยงต่อการถูกทำลายจริง ทำให้เครดิตส่วนใหญ่กลายเป็น “phantom credits” resourcewise.com
  • แนวทางใหม่จาก ICVCM และองค์กรมาตรฐาน เช่นวิธีกำหนด baseline แบบ CCP จะช่วยปรับแก้ปัญหานี้ตั้งแต่ปี 2025 และเพิ่มความน่าเชื่อถือของเครดิต wsj.com

การจำแนกประเภทป่าไม้หรือ forest classification อย่างละเอียดและถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เพียงแค่ขั้นตอนทางเทคนิคแต่เป็นเสาหลักที่ค้ำจุนความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของโครงการคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ทั้งหมด การยอมรับว่าป่าไม้มีความแตกต่างหลากหลายและประเมินค่าการกักเก็บคาร์บอนตามศักยภาพที่แท้จริงของแต่ละระบบนิเวศ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ Carbon Credit ว่าพวกเขากำลังลงทุนในโครงการที่มีคุณภาพและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศอย่างแท้จริง

CarbonWatch เราผู้นำเทคโนโลยีอวกาศเพื่อสิ่งแวดล้อม และคาร์บอนเครดิตรายแรกของไทย เราผสานนวัตกรรมของเทคโนโลยีดาวเทียมสำรวจโลกและ AI เพื่อประเมินการกักเก็บคาร์บอนในต้นไม้ เรามุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการสิ่งแวดล้อม และลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างเครดิตคาร์บอน เพื่อลดคาร์บอนอย่างยั่งยืนในตลาด Carbon Credit มาตรฐาน

ติดต่อ THAICOM PUBLIC COMPANY LIMITED พร้อมให้คำปรึกษา

แหล่งที่มาของข้อมูล:

  • Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC): แนวทางการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกระดับชาติ โดยเฉพาะในหมวดที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดิน (LULUCF) https://www.ipcc.ch/report/2006-ipcc-guidelines-for-national-greenhouse-gas-inventories/

  • Verra: ผู้พัฒนาระเบียบวิธีสำหรับตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจที่ใหญ่ที่สุด รวมถึงระเบียบวิธีสำหรับโครงการ REDD+ (Reducing Emissions from Deforestation and Forest Degradation) https://verra.org/methodologies/

  • World Resources Institute (WRI): งานวิจัยและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบทบาทของป่าไม้ในการดูดซับคาร์บอน https://www.wri.org/insights/forests-absorb-twice-much-carbon-they-emit-each-year

  • องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) - TGO: ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ภาคป่าไม้ https://ghgreduction.tgo.or.th1

  • MDPI - Forests Journal: แหล่งรวมงานวิจัยทางวิชาการเกี่ยวกับสมการแอลโลเมตริกและการประเมินมวลชีวภาพในป่าไม้ รวมถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับชนิดพันธุ์ในประเทศไทย https://www.mdpi.com/journal/forests

Related technology

คำถามที่พบบ่อย

No items found.

Get started with CarbonWatch

"Register and easily start your project. Experience a comprehensive carbon management service designed to make your management simple and seamless."

Get Started