ภาพรวมนโยบายโครงการคาร์บอนเครดิตของประเทศต่างๆ ในอาเซียน
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายระดับโลกที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะแต่ละภูมิภาคก็มีความหลากหลายทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศก็ได้รับผลกระทบอย่างมากจากปรากฏการณ์นี้ ด้วยตระหนักถึงความเร่งด่วนดังกล่าว หลายประเทศในอาเซียนและทั่วโลก จึงได้ริเริ่มและพัฒนานโยบายโครงการคาร์บอนเครดิตขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยภาพรวมของตลาดคาร์บอนในอาเซียนนั้น ใช้ “ASEAN Strategy for Carbon Neutrality” ที่มุ่งสร้างตลาดคาร์บอนที่เชื่อมโยงกันภายใต้นโยบายปลอดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการปรับมาตรฐาน MRV – Measurement, Reporting & Verification ให้สอดคล้องกัน ซึ่งแม้ว่าแต่ละประเทศจะมีนโยบายของตนเอง ตลาดคาร์บอนยังคงกระจัดกระจาย แข่งขันกันเลือกมาตรฐาน เช่น Verra หรือ Gold Standard ซึ่งอาจทำให้มีความแตกต่างกันและอาจจะทำให้รู้สึกได้ว่ายังไม่โปร่งใส
ฉะนั้นในปี 2024 จึงเกิด ASEAN Common Carbon Framework (ACCF) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ COP29 ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือที่สำคัญ โดยมุ่งสู่การเชื่อมโยงมาตรฐานคาร์บอนเครดิต ภายในอาเซียนและกับมาตรฐานระหว่างประเทศ มีเป้าหมายคือ mutual recognition และการเชื่อมโยง registry ตามแนวทาง Article 6 ของข้อตกลงปารีส สมาชิกหลักคือ มาเลเซีย อินโดฯ ไทย สิงคโปร์ โดยฟิลิปปินส์เตรียมเข้าร่วมในปีถัดมา (ที่มา : https://www.eu-asean.eu)
นโยบายโครงการคาร์บอนเครดิตของประเทศต่างๆ อาเซียนมีอะไรบ้าง?
- ประเทศไทย : ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายและมาตรการที่สำคัญดังนี้
-
- โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) : เป็นกลไกที่ส่งเสริมให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศโดยความสมัครใจ โดยมีองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการให้การรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือดูดซับได้จากโครงการ (ที่มา : องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) - โครงการ T-VER)
- นโยบายการจัดตั้งตลาดคาร์บอน : ประเทศไทยอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาแนวทางการจัดตั้งตลาดคาร์บอนเครดิตภาคบังคับและภาคสมัครใจเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามที่กำหนดในแผนพลังงานชาติและแผนแม่บทการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ที่มา : https://setsustainability.com)
- โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) : เป็นกลไกที่ส่งเสริมให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศโดยความสมัครใจ โดยมีองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการให้การรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือดูดซับได้จากโครงการ (ที่มา : องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) - โครงการ T-VER)
-
- การกำหนดราคาคาร์บอน : ประเทศไทยมีการศึกษาและทดลองใช้เครื่องมือการกำหนดราคาคาร์บอนรูปแบบต่างๆ เช่น ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) และการซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emissions Trading Scheme: ETS) เพื่อเป็นกลไกจูงใจให้ภาคเอกชนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ประเทศสิงคโปร์ : สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดในอาเซียนด้านนโยบายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดก๊าซเรือนกระจก
-
- Carbon Tax (ภาษีคาร์บอน) : สิงคโปร์เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำร่องการเก็บภาษีคาร์บอนตั้งแต่ปี 2562 โดยกำหนดอัตราภาษีคาร์บอนที่ $5/ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าและมีแผนจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น $25/ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าภายในปี 2568 และ $45/ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าภายในปี 2573 (ที่มา : National Climate Change Secretariat (NCCS) Singapore - Carbon Tax)
- Carbon Credits International (CCI) : สิงคโปร์ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Carbon Credits International (CCI) เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพสูงจากทั่วโลก โดยมุ่งเน้น Carbon Credit ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล (ที่มา : Ministry of Sustainability and the Environment (MSE) Singapore - Carbon Credits)
- Carbon Tax (ภาษีคาร์บอน) : สิงคโปร์เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำร่องการเก็บภาษีคาร์บอนตั้งแต่ปี 2562 โดยกำหนดอัตราภาษีคาร์บอนที่ $5/ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าและมีแผนจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น $25/ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าภายในปี 2568 และ $45/ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าภายในปี 2573 (ที่มา : National Climate Change Secretariat (NCCS) Singapore - Carbon Tax)
- ประเทศอินโดนีเซีย : ซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นที่ป่าไม้ขนาดใหญ่และมีความสำคัญต่อการดูดซับคาร์บอน ได้พัฒนากลไกการลดก๊าซเรือนกระจกที่หลากหลาย
-
- National Registry System (SRN) : อินโดนีเซียได้จัดตั้งระบบทะเบียนแห่งชาติ (SRN) เพื่อรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ รวมถึงการขึ้นทะเบียนโครงการคาร์บอนเครดิต (ที่มา : Ministry of Environment and Forestry (KLHK) Indonesia - SRN PPI (ระบบทะเบียนแห่งชาติเพื่อการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ)
- Carbon Trading Scheme : อินโดนีเซียอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการซื้อขายคาร์บอน (Carbon Trading Scheme) ที่ครอบคลุมภาคส่วนต่างๆ โดยมุ่งเน้นภาคพลังงานและอุตสาหกรรมเป็นลำดับแรก นอกจากนี้ยังมีโครงการ REDD+ (Reducing Emissions from Deforestation and Forest Degradation) ที่สำคัญในการสร้างคาร์บอนเครดิตจากภาคป่าไม้ (ที่มา : ASEAN Centre for Energy - Indonesia's Carbon Trading Scheme: A Promising Step Towards Net Zero)
- National Registry System (SRN) : อินโดนีเซียได้จัดตั้งระบบทะเบียนแห่งชาติ (SRN) เพื่อรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ รวมถึงการขึ้นทะเบียนโครงการคาร์บอนเครดิต (ที่มา : Ministry of Environment and Forestry (KLHK) Indonesia - SRN PPI (ระบบทะเบียนแห่งชาติเพื่อการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ)
- ประเทศมาเลเซีย : มาเลเซียมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 โดยมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิต ดังนี้
-
- Voluntary Carbon Market (VCM) Framework : มาเลเซียได้เปิดตัวกรอบการทำงานสำหรับตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ (VCM) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการซื้อขาย Carbon Credit ในประเทศ โดยมี Bursa Malaysia (ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย) เป็นผู้ดำเนินการแพลตฟอร์ Bursa Carbon Exchange (BCX) (ที่มา : Bursa Malaysia - Bursa Carbon Exchange (BCX)
- Malaysia Carbon Market (MCM) : รัฐบาลมาเลเซียกำลังศึกษาและพัฒนากลไกตลาดคาร์บอนภาคบังคับในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ
- Voluntary Carbon Market (VCM) Framework : มาเลเซียได้เปิดตัวกรอบการทำงานสำหรับตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ (VCM) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการซื้อขาย Carbon Credit ในประเทศ โดยมี Bursa Malaysia (ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย) เป็นผู้ดำเนินการแพลตฟอร์ Bursa Carbon Exchange (BCX) (ที่มา : Bursa Malaysia - Bursa Carbon Exchange (BCX)
- ประเทศฟิลิปปินส์ : ฟิลิปปินส์กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดตั้งระบบคาร์บอนเครดิต เพื่อส่งเสริมการลงทุนในโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเน้นภาคพลังงานและภาคป่าไม้
-
- Exploration of Carbon Pricing Mechanisms : รัฐบาลฟิลิปปินส์อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการกำหนดราคาคาร์บอน รวมถึงการพิจารณานำระบบภาษีคาร์บอนหรือการซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาใช้ (ที่มา : Department of Finance (DOF) Philippines - DOF backs carbon pricing as key climate change solution)
การเปรียบเทียบและบทสรุป
คุณสมบัติ/ประเทศ |
ไทย |
สิงคโปร์ |
อินโดนีเซีย |
มาเลเซีย |
ฟิลิปปินส์ |
ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ |
มี (T-VER) |
มี (CCI) |
มี (ผ่าน SRN และโครงการ) |
มี (VCM Framework, BCX) |
อยู่ระหว่างศึกษา |
ตลาดคาร์บอนภาคบังคับ/ภาษีคาร์บอน |
อยู่ระหว่างศึกษา/ทดลอง |
มี (Carbon Tax) |
อยู่ระหว่างพัฒนา |
อยู่ระหว่างศึกษา |
อยู่ระหว่างศึกษา |
หน่วยงานหลัก |
อบก. |
NCCS, MSE |
KLHK |
Bursa Malaysia |
DOF |
เป้าหมายหลัก |
ลดก๊าซเรือนกระจก, ส่งเสริมความยั่งยืน |
ลดก๊าซเรือนกระจก, สร้างรายได้, Hub คาร์บอน |
ลดก๊าซเรือนกระจก, บริหารจัดการข้อมูล |
ลดก๊าซเรือนกระจก, พัฒนาตลาด |
ลดก๊าซเรือนกระจก |
โดยสรุปแล้ว ประเทศในอาเซียนต่างมีความตระหนักถึงความสำคัญของคาร์บอนเครดิตในการบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของตนเอง แม้ว่าแต่ละประเทศจะมีแนวทางและระดับความก้าวหน้าที่แตกต่างกันไป สิงคโปร์โดดเด่นด้วยการนำร่องใช้ภาษีคาร์บอน ในขณะที่อินโดนีเซียและมาเลเซียกำลังพัฒนาระบบตลาดคาร์บอนที่ครอบคลุมมากขึ้น ส่วนประเทศไทยก็กำลังเดินหน้าพัฒนากลไกต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดคาร์บอนในประเทศและภูมิภาค การประสานงานและความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างตลาดคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคต่อไปในอนาคต
CarbonWatch เราผู้นำเทคโนโลยีอวกาศเพื่อสิ่งแวดล้อม และคาร์บอนเครดิตรายแรกของไทย เราผสานนวัตกรรมดาวเทียมสำรวจโลกและ AI เพื่อประเมินการกักเก็บคาร์บอนในต้นไม้ เรามุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการสิ่งแวดล้อม และ ลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างเครดิตคาร์บอน เพื่อลดคาร์บอนอย่างยั่งยืนในตลาด Carbon Credit มาตรฐาน
ติดต่อ THAICOM PUBLIC COMPANY LIMITED พร้อมให้คำปรึกษา
