ความรู้ทั่วไป

การพัฒนาแพลตฟอร์มดาวเทียมระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนเครดิตในอาเซียน

การพัฒนาแพลตฟอร์มดาวเทียมระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนเครดิตในอาเซียน

แพลตฟอร์มดาวเทียม : ทางออกเพื่อคาร์บอนเครดิตที่น่าเชื่อถือ

ประชาคมอาเซียนกำลังเดินหน้าสู่การเป็นตลาดคาร์บอนเครดิตที่มีศักยภาพ แต่ยังคงเผชิญความท้าทายด้านความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของข้อมูล การพัฒนา แพลตฟอร์มดาวเทียมระดับภูมิภาค ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะเข้ามาปฏิวัติระบบการตรวจวัด รายงานและทวนสอบ (MRV) ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยยกระดับตลาดคาร์บอนของอาเซียนให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน

ความท้าทายของตลาดคาร์บอนเครดิตในอาเซียน

ตลาด Carbon Credit ในอาเซียนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยหลายประเทศได้ริเริ่มพัฒนากลไกและโครงการซื้อขายของตนเอง เช่น Thailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER) ของไทย หรือ SPE-GRK ของอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดโดยรวมยังคงเผชิญกับอุปสรรคสำคัญหลายประการ เช่น

  • ขาดมาตรฐานกลาง : แต่ละประเทศมีมาตรฐานและระเบียบวิธีในการประเมินคาร์บอนเครดิตที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความซับซ้อนและเป็นอุปสรรคต่อการซื้อขายแลกเปลี่ยน Carbon Credit ข้ามพรมแดน
  • ความน่าเชื่อถือของข้อมูล : การตรวจวัดและประเมินการกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Land Use, Land-Use Change, and Forestry: LULUCF) ซึ่งเป็นแหล่ง Carbon Credit ที่สำคัญของภูมิภาคยังคงพึ่งพิงการสำรวจภาคพื้นดินเป็นหลัก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ใช้เวลานานและอาจไม่สามารถสำรวจได้อย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง
  • ความโปร่งใส : กระบวนการทวนสอบข้อมูลเพื่อรับรองคาร์บอนเครดิตในบางครั้งยังขาดความเป็นกลางและโปร่งใส ทำให้ผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นในคุณภาพของคาร์บอนเครดิต

ความจำเป็นของแพลตฟอร์มดาวเทียมระดับภูมิภาคในอาเซียน

แม้แต่ละประเทศในอาเซียนจะมีระบบดาวเทียมของตนเองหรือเข้าถึงข้อมูลจากองค์กรต่างประเทศ แต่การพัฒนาแพลตฟอร์มระดับภูมิภาค จะช่วยให้เกิดการรวมศูนย์ข้อมูล เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างเสรีและพัฒนาแนวทางการวัดคาร์บอนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ตัวอย่างประเด็นที่แพลตฟอร์มนี้สามารถสนับสนุน ได้แก่

  • การตรวจสอบและยืนยัน (Monitoring, Reporting and Verification - MRV) : ระบบ MRV ที่ขับเคลื่อนด้วยดาวเทียมจะเพิ่มความโปร่งใสและลดต้นทุนของการประเมินโครงการคาร์บอน
  • การพัฒนาแพลตฟอร์มแบบเปิด (Open Platform) : เปิดให้สถาบันและผู้ประกอบการในภูมิภาคเข้าถึงข้อมูล เพื่อออกแบบโครงการคาร์บอนเครดิตใหม่ๆ
  • การบริหารจัดการฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศ (Geospatial Database) : แสดงผลการเปลี่ยนแปลงของการใช้ที่ดิน การเจริญเติบโตของต้นไม้และแหล่งปล่อยก๊าซ
  • การสนับสนุนการทำงานร่วมกันของประเทศในอาเซียน : ลดความซ้ำซ้อนของระบบ และช่วยให้นโยบายด้านคาร์บอนของประเทศสมาชิกเชื่อมโยงกันได้มากขึ้น

แพลตฟอร์มดาวเทียม: ทางออกเพื่อตลาดคาร์บอนเครดิตที่น่าเชื่อถือ

การใช้เทคโนโลยีดาวเทียมสำรวจระยะไกล (Remote Sensing) ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาและปฏิวัติระบบ MRV ของตลาด Carbon Credit ในอาเซียนได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีประโยชน์ดังนี้

  • การตรวจวัดที่แม่นยำและครอบคลุม : ดาวเทียมสามารถถ่ายภาพและเก็บข้อมูลพื้นที่ป่าไม้และเกษตรกรรมได้อย่างสม่ำเสมอ ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางในระดับภูมิภาค ทำให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียว การตัดไม้ทำลายป่าและประเมินการกักเก็บคาร์บอนในมวลชีวภาพได้อย่างแม่นยำและเป็นปัจจุบัน
  • ลดต้นทุนและเวลา : การใช้ข้อมูลดาวเทียมช่วยลดความจำเป็นในการลงพื้นที่สำรวจภาคพื้นดินที่มีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้กระบวนการประเมินและทวนสอบคาร์บอนเครดิตมีความรวดเร็วและประหยัดมากยิ่งขึ้น
  • สร้างความโปร่งใสและน่าเชื่อถือ : ข้อมูลจากดาวเทียมเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ช่วยลดข้อโต้แย้งและเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการ MRV ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อและนักลงทุนในตลาดคาร์บอน

กรณีศึกษาที่น่าสนใจในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำของอาเซียนในการนำเทคโนโลยีดาวเทียมมาประยุกต์ใช้กับตลาดคาร์บอนเครดิต โดยมีตัวอย่างที่โดดเด่นคือ

  • “CarbonWatch” โดย บมจ.ไทยคม : บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนานวัตกรรม CarbonWatch ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมและ AI เพื่อช่วยในการประเมิน Carbon Credit ในภาคป่าไม้ และได้รับการรับรองจาก อบก. เป็นรายแรก เพื่อประเมินการกักเก็บคาร์บอน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของภาคเอกชนไทยในการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

  • แพลตฟอร์ม “Carbon Atlas” โดย GISTDA : สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Carbon Atlas ซึ่งใช้ข้อมูลจากดาวเทียมร่วมกับ AI ในการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่าไม้ เพื่อสนับสนุนการคำนวณคาร์บอนเครดิต

แนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มดาวเทียมระดับภูมิภาคเพื่อคาร์บอนเครดิตที่แม่นยำ

  1. รูปแบบทางเทคนิค : แพลตฟอร์มควรถูกออกแบบให้เป็นระบบเปิดที่สามารถบูรณาการข้อมูลจากดาวเทียมหลายดวง ทั้งของภาครัฐในแต่ละประเทศและดาวเทียมเชิงพาณิชย์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่หลากหลายและครอบคลุมที่สุด พร้อมทั้งพัฒนาแบบจำลอง AIและMachine Learning ที่ผ่านการฝึกฝนด้วยข้อมูลภาคพื้นดิน (Ground Truth) เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และประเมินปริมาณการกักเก็บคาร์บอนได้อย่างอัตโนมัติ และคำนวณคาร์บอนเครดิตได้อย่างแม่นยำสำหรับระบบนิเวศที่แตกต่างกันในอาเซียน
  2. รูปแบบทางการเงิน : การพัฒนาแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมาก โมเดลการลงทุนจึงควรเป็นลักษณะของ การลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) นอกจากนี้ ควรมีการแสวงหา แหล่งทุนสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น European Space Agency (ESA) หรือธนาคารเพื่อการพัฒนาต่างๆ ที่มีโครงการสนับสนุนการใช้ข้อมูลดาวเทียมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการพิจารณา โมเดลธุรกิจแบบสมัครสมาชิกสำหรับภาคเอกชนที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
  3. รูปแบบการกำกับดูแล : จำเป็นต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมระดับอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิก เพื่อกำหนดนโยบาย มาตรฐานข้อมูลและแนวทางการใช้ข้อมูลร่วมกัน โดยอาจอ้างอิงกรอบธรรมาภิบาลข้อมูล จากแนวทาง ASEAN Digital Economy Framework Agreement (DEFA) เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามพรมแดนที่โปร่งใส ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ควบคู่ไปกับการสร้างความร่วมมือกับสถาบันวิจัยและภาควิชาการเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างความร่วมมือและแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

  • Global Forest Watch : แพลตฟอร์มแสดงข้อมูลป่าไม้ทั่วโลก โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม Landsat และ Sentinel ของ NASA และ ESA สนับสนุนการตรวจสอบการสูญเสียป่าในภูมิภาคอาเซียน
  • REDD+ MRV Platform โดย FAO และ UN-REDD : แสดงแนวทางและเครื่องมือการวัดคาร์บอนเครดิตในป่าไม้ที่หลายประเทศในอาเซียนนำไปใช้
  • Satelligence : บริษัทด้านข้อมูลจากดาวเทียมที่ทำงานร่วมกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการเกษตร ป่าไม้และเหมืองแร่
  • NASA Carbon Monitoring System : ให้ข้อมูลดาวเทียมและแบบจำลองการปล่อยและการดูดซับคาร์บอนจากทั่วโลก ซึ่งประเทศในอาเซียนสามารถนำมาใช้วิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลท้องถิ่น

การพัฒนาแพลตฟอร์มดาวเทียมระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนเครดิตในอาเซียน ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการสร้างเศรษฐกิจสีเขียวที่ยั่งยืน การดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของตลาดคาร์บอนในภูมิภาค แต่ยังจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ อาเซียนควรเร่งจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้และวางแผนการดำเนินงาน (Roadmap) ที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อคว้าโอกาสและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดคาร์บอนโลก

CarbonWatch เราผู้นำเทคโนโลยีอวกาศเพื่อสิ่งแวดล้อม และคาร์บอนเครดิตรายแรกของไทย เราผสานนวัตกรรมของเทคโนโลยีดาวเทียมสำรวจโลกและ AI เพื่อประเมินการกักเก็บคาร์บอนในต้นไม้ เรามุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการสิ่งแวดล้อม และลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างเครดิตคาร์บอน เพื่อลดคาร์บอนอย่างยั่งยืนในตลาด Carbon Credit มาตรฐาน

ติดต่อ THAICOM PUBLIC COMPANY LIMITED พร้อมให้คำปรึกษา

เทคโนโลยีอื่นๆ

คำถามที่พบบ่อย

No items found.

เริ่มต้นกับ CarbonWatch

"ลงทะเบียนและเริ่มสร้างโครงการของคุณได้ง่าย ๆ สัมผัสกับบริการจัดการคาร์บอน การกักเก็บคาร์บอนในต้นไม้
แบบครบวงจร ที่พร้อมช่วยให้การจัดการของคุณเป็นเรื่องง่าย"

เริ่มเลย